แม่หนุ่มแรงงานไทย อายุ26 ปี ชาว อ.ปลาปาก จ.นครพนม ยืนยันลูกชายเป็นหนึ่งในเหยื่อกลุ่มฮามาส ถูกจับเป็นตัวประกัน ใจจะขาดหลังเห็นจากภาพลูกปรากฏในสื่อโซเชียล ร่ำไห้ไม่หยุดยังติดต่อลูกชายไม่ได้ เผยไปทำงานสวนเกษตร เกือบ 2 ปี เป็นเสาหลักของครอบครัว วอนรัฐบาลไทยเร่งช่วยเหลือ ห่วงความปลอดภัย วอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์องค์ธาตุพนมคุ้มครองรักษา
กรณีเกิดเหตุก่อการร้ายที่ประเทศอิสราเอล จนมีการเผยแพร่ข่าวออกตามสื่อต่างๆ รวมถึงมีรายงานว่า มีแรงงานไทย ที่ไปทำงานที่ประเทศอิสราเอล ถูกจับเป็นตัวประกันหลายคน หนึ่งในจำนวนนั้นเป็น แรงงานหนุ่มชาวบ้านหนองแสง หมู่ 5 ต.นามะเขือ อ.ปลาปาก จ.นครพนม โดยถูกจับตัวไปช่วงเย็นวันที่ 7 ต.ค.66 ที่ผ่านมา อยู่ระหว่างทางรัฐบาลไทย ประสานเอกอัครราชทูตไทย ดำเนินการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน แต่ยังไม่ทราบชะตามกรรม และข่าวความคืบหน้า เกี่ยวกับความเป็นอยู่ของแรงงานไทย
ล่าสุด นายธวัชชัย อ่อนแก้ว อายุ 47 ปี พร้อมภรรยา คือ นางทองคูณ อ่อนแก้ว อายุ 47 ปี ว่าเป็นพ่อแม่ ของแรงงานไทย ที่ถูกจับเป็นตัวประกันในเหตุก่อการร้ายที่อิสราเอล ทราบชื่อคือ นายณัฐพร อ่อนแก้ว หรือตั้ม อายุ 26 ปี เป็นแรงงานไทยไปทำงานที่สวนเกษตร ในประเทศอสราเอล ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564
ทางครอบครัว ยืนยันว่า ดูภาพถ่ายหลักฐานจากสื่อโซเชียล มั่นใจว่าเป็นลูกชายของตนจริง ไม่ผิดตัว อีกทั้งขาดการติดต่อหลายชั่วโมง หลังมีข่าวเกิดเหตุการณ์ก่อการร้าย จากปกติจะมีการติดต่อโทรผ่านแชท เฟซบุ๊กได้ตลอด นอกจากนี้ยังไม่สามารถติดต่อเพื่อนร่วมงาน หรือคนรู้จักที่เป็นแรงงานไทยได้
นางทองคูณ อ่อนแก้ว หรือแม่คูณ อายุ 47 ปี แม่ของน้องตั้ม แรงงานไทยในประเทศอิสราเอล ที่ถูกจับเป็นตัวประกันว่า ในเหตุก่อการร้าย เปิดเผยว่า จากการติดตามข้อมูลข่าวสาร ภาพจากสื่อโซเชียล มั่นใจว่าลูกชาย คือ นายณัฐพร อ่อนแก้ว หรือตุ้ย อายุ 26 ปี เนื่องจากปกติตนกับลูกชายจะติดต่อพูดคุยสอบถามความเป็นอยู่กันตลอดทุกวันหลังเลิกงาน ทางแชทเฟซบุ๊กลูกชาย และติดตามเฟซบุ๊กลูกชายตลอด บัญชีชื่อ Natthaporn Onkeaw ด้วยความเป็นห่วงไปทำงานต่างประเทศ
แต่ล่าสุดหลังมีข่าวความรุนแรง พบว่าไม่มีความเคลื่อนไหว และพยายามติดต่อโทรสอบถาม แต่ไม่สามารถติดต่อได้ และตนไม่มีคนรู้จักที่ไปทำงานด้วยกันที่สามารถติดต่อได้เช่นกัน มั่นใจถูกจับตัวอย่างแน่นอน
นางทองคูณบอกว่า ตนมีลูกแค่ 2 คน น้องตั้ม เป็นลูกชายคนโต อีกคนเป็นลูกสาว อายุ 12 ปี ทำให้น้องตั้ม เป็นเสาหลักครอบครัว ขยันทำงาน รักครอบครัว ทั้งนี้พ่อของน้องตั้มก็เคยไปทำงานประเทศอิสราเอล เมื่อหลายปีก่อนเช่นกัน เพราะครอบครัวยากจน จึงไปขายแรงงานต่างประเทศหวังสร้างฐานะครอบครัว จนกระทั่งลูกชายมาสานต่อพ่อไปทำงาน เมื่อเดือนตุลาคม 2564 ผ่านกรมการจัดหางาน มีค่าใช้จ่ายเดินทางทั้งหมดรวม ประมาณ 60,000 บาท
น้องตั้มไปทำงานสวนเกษตร เงินเดือนประมาณ 50,000 บาท ถือว่ารายได้ดี สัญญาจ้าง 5 ปี แต่ยังต้องเก็บเงินเพราะสร้างบ้าน ซื้อรถยนต์ รวมถึงรักษาพ่อที่ป่วยเบาหวาน มาถึงตอนนี้ยังไม่ทราบข่าวความเคลื่อนไหว ได้แต่รอความหวังจากรัฐบาลให้ประสานการช่วยเหลือ ห่วงความปลอดภัย
นางทองคูณ กล่าวอีกว่า ในส่วนตัวสิ่งสำคัญที่ขอพรคือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ได้แต่ภาวนาให้คุ้มครองปกปักษ์รักษา ให้น้องตั้มลูกชายปลอดภัย ส่วนตัวยังมั่นใจเชื่อศรัทธาในสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะคุ้มครองลูกชาย อีกทั้งก่อนเดินทางไปทำงานที่ประเทศอิสราเอล ได้นำเหรียญพระเครื่องหลวงพ่ออวน เกจิชื่อดังในวัดหมู่บ้าน รวมถึงเหรียญองค์พระธาตุพนม ทุกวันลูกชายจะเล่าให้ฟังว่าจะกราบไหว้ขอพรตลอด จึงเชื่อว่าลูกชายยังปลอดภัย
Comments